มะรุมเป็นไม้ที่มีประโยชน์อย่างมากมายทั้งการรักษาแบบแผนโบราณและแผนปัจจุบัน ประโยชน์หนึ่งที่ได้รับจากมะรุมที่หลายคนคาดไม่ถึงนั่นคือ มะรุมต้านมะเร็ง!! จริงหรือไม่ เรื่องนี้ได้รับการบันทึกโดยสถาบันที่วิจัยรวมทั้งจาก เอกสารอ้างอิง
Fahey,Jed W. Sc.D. Moringa oleifera: A Review of the Medical Evidence for Its Nutritional, Therapeutic, and Prophylactic Properties เรามาติดตามเรื่องราวของพืชชนิดนี้กันดีกว่า ว่าประโยชน์ของมันครอบจักรวาลจริงๆ
มะรุม สมุนไพรมหัศจรรย์ (Moringa-Miracle Tree)
มะรุมเป็นไม้ยืนต้นของไทยชนิดหนึ่งที่โตเร็ว ทนแล้งสูง สามารถปลูกได้ง่ายในเขตร้อน มะรุมมีประโยชน์มากมาย ทั้งทางด้านอาหาร ยารวมทั้งด้านอุตสาหกรรม
ชื่อพื้นเมือง ผักอีฮึม ผักอีฮุม มะค้อนก้อม
มะรุมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางเรือนยอดกลมและโปร่ง เจริญเติบโตเร็ว ต้นที่โตเต็มที่อาจสูงถึง 4 เมตรและออกดอกภายในปีแรกที่ปลูก ใบมะรุมเป็นใบประกอบแบบขนนก ผิวใบด้านล่างสีอ่อนกว่าและมีขนเล็กน้อยขณะที่ใบยังอ่อน ใบมีรสหวานมัน มักออกดอกในฤดูหนาว มะรุมบางชนิดออกดอกหลายครั้งต่อปี สำหรับดอกมะรุมนั้นมีลักษณะเป็นดอกช่อ สีขาว กลีบเรียง มี 5 กลีบ กลีบดอกมี 5 กลีบแยกกัน ดอกมีรสขม หวาน มันเล็กน้อย ผลเป็นฝักยาว เปลือกสีเขียวมีส่วนคอดและส่วนมน เป็นระยะ ๆ ตามยาวของฝัก ฝักยาว 20 – 50 ซม. ฝักมีรสหวาน เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยม มีปีกบางหุ้ม 3 ปีก เส้นผ่าศูนย์กลางของเมล็ดประมาณ 1 ซม.
การปลูก
มะรุมเป็นพืชที่มีเติบโตอยู่ในประเทศแถบเอเชีย เช่น ศรีลังกา อินเดีย เป็นต้น และยังพบในเขตเอเชียไมเนอร์และแอฟริกา จัดว่าเป็นพืชปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด โดยมีความต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง การขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำกิ่ง จะได้โดยงอก มักใช้เวลาประมาณ 2สัปดาห์จึงจะให้ต้นกล้าที่สูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร
มะรุมกับประโยชน์ทางยา
ส่วนของใบมะรุม
แก้เลือดออกตามไรฟัน ใช้ถอนพิษไข้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้อักเสบ ขับปัสสาวะ แก้แผล ลดความดันโลหิต อีกทั้งป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย
ดอก
เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ใช้แก้ไข้หัวลม ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และยังป้องกันโรคมะเร็งได้อีก
ยอดอ่อนใบมะรุม
ใช้ถอนพิษไข้
เมล็ดของมะรุม
สำหรับเมล็ดนำมาใช้ปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้ปวดตามข้อ แก้บวม ป้องกันโรคมะเร็ง
ราก
มีรสเผ็ด หวาน ขม สรรพคุณ บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ แก้อาการบวม รักษาโรคไขข้อ
ฝักมะรุม
ใช้แก้ไข้ ลดความดันโลหิต ป้องกันโรคมะเร็ง
เปลือกและลำต้น
มีสรรพคุณขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด คุมธาตุอ่อน ๆ เคี้ยวกินช่วยย่อยอาหาร
และยางของมะรุม ยังมีประโยชน์ในการฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส แก้ปวดฟัน
คุณค่าทางอาหาร
ใบมะรุมสดใช้กินเป็นอาหาร ส่วนใบแห้งสามารถทำเป็นผงเก็บไว้ได้นานซึ่งไม่ทำให้คุณค่าทางอาหารเสียแต่ประการใด ใบมะรุมนั้นมีมีเหล็กสูงกว่าผักขม วิตามิน เอ ที่สูงกว่าแครอท มีวิตามี ซี สูงกว่าส้ม มีแคลเซียมสูงกว่านม อีกทั้งมีโปแตสเซียมสูงกว่ากล้วย
ดอกของมะรุมยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้หวัด ป้องกันไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง
เมื่อเราจะแยกคุณค่าทางด้านอาหารออกมา เราจะพบว่า ฝักมะรุม 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 32 กิโลแคลอรี่ ซึ่งประกอบด้วย แคลเซียม 9 มิลลิกรัม เส้นใย 1.2 กรัม เหล็ก 1.5 มิลลิกรัม วิตามินซี 262 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม วิตามินบีหนึ่ง 0.05 มิลลิกรัม วิตามินเอ 532 IU ไนอาซิน 0.6 มิลลิกรัม
ส่วนน้ำมันที่ได้จากการคั้นเมล็ดสดของมะรุมสามารถใช้เป็นน้ำมันปรุงอาหารได้อีกด้วย
ประโยชน์อื่น ๆ
เมล็ดของมะรุมสามารถคั้นได้น้ำมันที่มีคุณภาพสูงมาก โดยนำไปใช้เป็นอาหารหรือเพื่อนำไปใช้ในด้านการถนอมผิว ส่วนกากที่เหลือนำไปใช้แทนสารส้มในการทำให้น้ำให้ใสและสะอาดได้อีก
ใบและกิ่งนำไปเป็นอาหารสัตว์ซึ่งจะทำให้สัตว์เติบโตดี และป้องกันโรคบางชนิดให้กับสัตว์เลี้ยงได้
ปัจจุบันได้มีผู้ผลิตอาหารเสริมมากมายได้นำมะรุมมาผลิตเป็นสินค้าเพื่อเป็น อาหารเสริมให้กับผู้ที่ต้องการนำมะรุมไปรับประทาน ไม่ว่าจะเป็น กาแฟมะรุม ,ชามะรุม หรือแม้แต่ในรูปของแคปซู
เราจะเห็นได้ว่ามะรุมนั้นเป็นพืชที่ทรงคุณค่ามากทั้งการเป็นพืชครัวเรือน ที่สามารถนำมาใช้ได้ตั้งแต่ใบจดราก รวมทั้งนำไปใช้ในวงการแพทย์ด้านต่างๆ ฉนั้นอยากมีสุขภาพดีเรามารับประทานมะรุมกันเถอะค่ะ